หาข้อมูลสถานที่ ดูข้อมูลของสถานที่ถ่ายภาพให้แน่ใจ ศึกษาเส้นทางการเดินทางไปสถานที่ถ่ายภาพ และนัดแนะเวลากับทางทีมงานให้ชัดเจน 2. แจ้งช่างภาพ หากอยากได้รูปเพื่อนำไปใช้ในจุดประสงค์เฉพาะอย่าง หากมีการวางแผนไว้แล้วว่าจะนำรูปไปใช้ในจุดประสงค์พิเศษ เช่น นำไปอัดภาพขนาดใหญ่ ทำ Gallery backdrop ทำการ์ดเชิญ ของชำร่วย ควรแจ้งช่างภาพ/สตูดิโอล่วงหน้า เพื่อทีมงานจะได้จัดการให้ตามที่ต้องการ 3. เตรียมชุดสำหรับถ่ายภาพ จัดหาชุดที่ต้องการให้เรียบร้อย หากมีการลดน้ำหนัก ควรลองชุดอีกครั้ง ถ้าเป็นไปได้ คุณอาจใส่ชุดที่ตั้งใจจะถ่ายภาพยืนคู่กัน แล้วส่งภาพมาให้ทีมงานดูก่อนล่วงหน้า เพื่อให้สไตลิสต์หรือช่างภาพแนะนำและแก้ไขได้ก่อนถึงเวลาถ่ายจริง 4. เตรียมพร็อพส่วนตัว จัดเตรียมพร็อพสุดเก๋ ไม่ว่าจะเป็นแว่นตากันแดดที่เข้ากับรูปหน้าของเรา ลูกโป่ง แหวนคู่ ของแทนใจต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งน้องหมา ก็สามารถใช้เป็นพร็อพน่ารัก ๆ ได้เช่นกัน 5. ฟิตร่างกาย ฝึกยิ้ม เตรียมความพร้อม เตรียมร่างกายด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนวันถ่าย โดยเฉพาะคู่ที่จะถ่ายพรีเวดดิ้งแบบเอาต์ดอร์ เพราะต้องแบกชุดแต่งงานหนัก ๆ ตากแดด ตากลมทั้งวัน เรียกว่าใช้พลังงานและความอดทนสูงมาก นอกจากนี้ยังควรฝึกยิ้มหน้ากระจก ฝึกโพสท่า หามุมหล่อมุมสวยของตัวเอง เพราะการที่บ่าวสาวรู้มุมจะช่วยให้ภาพออกมาได้ถูกใจยิ่งขึ้น สเต็ป 3: การเตรียมตัวในวันถ่ายพรีเวดดิ้ง เอาล่ะ!
ลูกโป่งทรงบอลลูน เชื่อไหมคะว่ามี ลูกโป่ง แค่ลูกเดียว ก็ถ่ายพรีเวดดิ้งได้เป็นสิบเซ็ตแล้ว แถมลูกโปร่งยังเอามาถ่ายภาพพรีเวดดิ้งให้ดูแนวๆ กับเขาได้อีกแหนะ เพราะความพิเศษของลูกโป่งคือความสดใส ดูสนุกสนาน ฉะนั้น จะหวาน เท่ หรือน่ารัก แค่รู้จักเลือกใช้สีของลูกโป่งให้เหมาะกับภาพ เท่านี้ก็เป็นภาพเวดดิ้งที่หลากอารมณ์ได้แล้ว ลูกโป่ง 5.